มาดูรายการญาติ และคนใกล้ตัว ที่เสียชีวิต

โดยสมาชิกพันทิพ ชื่อ 2เท้า9วิ่ง ตอบกระทู้ http://pantip.com/topic/33880311

น้าลูกพี่ลูกน้อง อายุ 59 เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ กินขนมเค็กทุกวัน กาแฟ+ครัมเทียม

น้าน้องแม่ อายุ 62 นอนเป็นผัก เส้นเลือดสมองตีบ ส่งโรงพยาบาลช้า กินกาแฟ 3 in 1 3-4 ซอง

แม่น้องเขย อายุ 65 เป็นมะเร็งเต้านม ระยะที่ 2 กินขนมเค็กทุกวัน ครีมเทียม มาการีน

ป้า อายุ 68 สมองเสื่อม เป็นอัมพฤกอัมพาด เดินไม่ได้ ชอบกินอาหารทอด และกาแฟ 3 in 1

เพื่อน อายุ 43 มะเร็งเต้านม ระยะ3  ทุกวัน ชอบกาแฟสด ใส่ครีมเทียมใส่นมข้น  และขนมเบเกอร์รี่ทุกวัน และไอซ์ครีม และอาหารฟาสฟู๊ด

เพื่อน อายุ 40 ปี เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ระยะที่ 2 ทุกวันจะมีขนมเค็ก และกาแฟสด+ครีมเทียม ชอบไอซ์ครีม เป็นพิเศษ กินเหล้าสรรคสรรคบ่อย

ผม อายุ 39 เคยเป็น ไขมันในเลือดสูง 300 อ้วน 100 กก. เบาหวาน ไตเสื่อม cr1.8 ความดันสูง คลื่นหัวใจผิดปรกติ กรดไหลย้อน เก้าท์ เนื้องอก(โชกดีเกือบเป็นมะเร็ง)    .... ชอบกาแฟชงเองใส่ครีมเทียมมากๆ 6 ช้อน/วัน ของทอดจากน้ำมันพืช ชอบพิซ่า น้ำตาลน้ำหวาน และไม่ออกกำลังกาย ....
ทุกวันนี้หายจากทุกโรคเสื่อม และปรดแอกจากยาเคม

ยังมีอีกหลายคนมากขี้เกียจพิมพ์ จากโทสับ

ขอให้ทุกท่าจงรอดพ้นจากโรคร้าย ด้วยการงดTransFat น้ำตาล และมาออกกำลังกาย ครับ

Read more ...

trans fat อันตรายจริง

โดยความคิดเห็นที่ 8 สมาชิกหมายเลข 712221 http://pantip.com/topic/30756310

ลดคอเรสตอรอลชนิดดี เพิ่มคอเลสเตอรรอลชนิดเลว ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจ และเส้นเลือดอุดตันในสมอง ยังมีการศึกษาที่พบว่า trans fat เพิ่มความเสี่ยงการเป็นเบาหวาน อัลไซเมอร์ และมะเร็ง นี่ยังไม่รวมที่ว่ากันว่า อาจทำให้เป็นโรคซึมเศร้า และสตรีมีลูกยากอีก

เรื่องแปลกอีกว่า ในครีมเทียมของอเมริกาหลายชนิดนั้นเป็นที่รู้กันว่า มี trans fat เป็นส่วนประกอบ แต่บริษัทผู้ผลิตกลับเขียนบอกไว้ข้างกล่องว่า trans fat เป็น 0 โดยใช้ช่องโหว่ของกฎของ FDA ที่บอกว่า ถ้ามี trans fat น้อยกว่า 0.5 กรัม ของ serving size ให้เขียนว่าเป็น 0 ได้ ผู้ผลิตจึงใช้การระบุให้ครีมเทียมของตัวเองมี serving size น้อยๆ (1 ช้อนชาบ้าง 1 ช้อนโต๊ะบ้าง) เพื่อที่จะได้บอกว่า ครีมเทียมของตัวเองมี transfat เป็น 0

สิ่งสำคัญ คือว่า บริโภค trans fat มากแค่ไหนถึงเป็นอันตราย ที่อ่านเจอ FDA บอกแค่ว่า ให้บริโภคให้น้อยที่สุด แต่ American heart association บอกควรบริโภคให้น้อยกว่า 2 กรัมต่อวัน ในอเมริกาอาหารต้องระบุปริมาณ transfat (ถึงแม้บางครั้งจะหลอกตัวเลข) แต่บ้านเราไม่จำเป็นต้องระบุ แล้วปริมาณ 2 กรัมนี่มันน้อยมาก ถ้ากินไม่ระวังนี่มันเกินกำหนดแน่ ๆ

Read more ...

การลุกขึ้นสู้กับไขมันทรานส์

นพ.วอลเตอร์ วิลเล็ตต์ จาก มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด พบว่า

คนที่กินไขมันทรานส์เป็นประจำ มีโอกาสเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดมากกว่าคนที่กินไขมันทรานส์น้อย ๆ ถึง 50% และไขมันทรานส์ยังสัมพันธ์กับการเกิดเนื้องอกในอวัยวะต่าง ๆ เป็นอยางมาก 

Read more ...

ไขมันตัวร้าย ที่ควรหลีกเลี่ยงจากเมนูโปรดของคุณ

20 เมษายน 2558 : น. เวลา 16:00 น.

ที่มา http://www.smartsme.tv/lifestyle-detail.php?id=1224

Read more ...

คุยกับหมอสันต์ เรื่อง อันตรายของยาลดไขมัน

โดยยูทูป drsant chaiyodsilp Published เมื่อ 5 ก.ค.2015

คนไทยเกือบ 56% ป่วยเป็นโรคไขมันในเลือดสูง จนถึงขั้นต้องกินยาลดไขมัน

แต่ผลจากการกินยาเป็นเวลานานส่งผลต่อร่างก­ายอย่างไร และผลข้างเคียงเป็นอย่างไร...ติดตามได้ใน คุยกับหมอสันต์ เรื่อง อันตรายของยาลดไขมัน 

Read more ...

หลอกลงขายยารกปลาทางอินเตอร์เน็ต ความจริงคือ ยาพาราผสมยาคลายกล้ามเนื้อ

โดยวอยซ์ทีวี เมื่อ 5 มี.ค.2557 http://news.voicetv.co.th/viral/99134.html

สมาชิกพันทิพชื่อ Sopithnapa Rx  ได้เตือนเรื่อง อาหารเสริมผ่านอินเตอร์เน็ต ที่อ้างว่าเป็นยารกปลา นำมาเปรียบเทียบกับยา MERA  ซึ่งเป็นยา Paracetamol 500 mg + Ophenadrine 35 mg  ที่มีสรรพคุณในการแก้ปวด ผสมกับการคลายกล้ามเนื้อ

โดยพบว่ายาชนิดดังกล่าวมีลักษณะเม็ดยา สียา ความหนาของยาและ ตัวอักษรของยาที่เหมือนกับยารกปลาที่มีการอ้างสรรพคุณถึงการดูแลผิวพรรณ ลดริ้วรอย รอยแดง รอยดำ เสริมสร้างพลังงานแก่เซลล์ และสรรพคุณอื่นๆ อีกจำนวนมาก โดยข้อมูลจากเว็บที่มีการจำนวนยารกปลาเหล่านี้จะระบุให้รับประทานครั้ง 3-4 เม็ด ซึ่งเท่ากับการทานแต่ละครั้งจะได้รับ Paracetamol 1500-2000 mg ต่อครั้ง และ Orphenadrine 105-140 mg ต่อครั้ง

ทั้งนี้การรับประทาน Paracetamol ในปริมาณมากๆและต่อเนื่องกันอาจส่งผลอันตรายต่อร่างกายโดยเฉพาะตับ ซึ่งอาจทำให้เกิดตับอักเสบและตับวายได้  โดยการหลอกนำยาแผนปัจจุบันมาหลอกขายผ่านสังคมออนไลน์กำลังได้รับความนิยม โดยมีการอ้างสรรพคุณเป็นยาเสริมความงาม ราคาถูก

Read more ...

Butter vs Margarine

Butter vs Margarine

Read more ...