แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ มะเร็ง แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ มะเร็ง แสดงบทความทั้งหมด

4 นวัตกรรมรักษามะเร็งแบบใหม่

10.3.56
Innovation Update ประจำวันที่ 9 มีนาคม 2556

แพทย์โรงพยาบาลนครกว่างโจว ของจีน ประสบความสำเร็จในการนำนวัตกรรมรักษามะเร็งแบบใหม่มาใช้รักษาผู้ป่วย โดยไม่ต้องพึ่งพาวิธีเคมีบำบัด หรือฉายแสง

มะเร็ง นับเป็นโรคที่คร่าชีวิตผู้ป่วยทั่วโลกในแต่ละปีเป็นจำนวนหลายล้านราย ซึ่งมะเร็งและเนื้องอก เป็นสิ่งที่คนในยุคปัจจุบันหลีกเลี่ยงได้ยาก ขณะที่วิธีการรักษามะเร็งที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน อย่างการผ่าตัด การฉายแสง และเคมีบำบัด เป็นวิธีการที่มีผลค้างเคียงต่อผู้ป่วยเป็นอย่างมาก และยังเป็นการทำลายเซลล์ดีที่อยู่ในร่างกายโดยไม่จำเป็น

ปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็ง ได้ศึกษาวิธีการรักษามะเร็งรูปแบบใหม่ ที่ได้ผลตรงจุด และช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วกว่าการให้เคมีบำบัด หรือการฉายแสง ซึ่งหนึ่งในโรงพยาบาลของเอเชีย อย่างโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว เป็นหนึ่งในไม่กี่โรงพยาบาลในภูมิภาค ที่ทำการผลักดันการศึกษาวิจัย และการรักษามะเร็งแบบใหม่ 4 รูปแบบ ประกอบไปด้วย

1) การใช้แร่ไอโอดีน 125 ขนาดเล็กเพียง 1 ใน 3 ของเมล็ดข้าวสาร นำไปฝังในก้อนมะเร็งโดยตรง ด้วยการใช้เข็มขนาดเล็กเจาะตรงสู่ก้อนมะเร็ง เพื่อให้แร่ไอโอดีน ปล่อยรังสีแกมมาออกมาทำลายเซลล์มะเร็ง ซึ่งรังสีแกมม่าที่ใช้ จะไม่ส่งผลกระทบต่ออวัยวะส่วนอื่นๆ ของร่างกาย

2) การรักษาด้วยความเย็น เป็นการรักษามะเร็งด้วยการใช้เข็มขนาดเล็ก ฉีดสาร"แอร์อาร์กอน"ซึ่งเป็นสารให้ความเย็นตรงสู่ก้อนมะเร็งด้วยอุณภูมิติดลบ 120-165 องศาเซลเซียส ส่งผลให้มะเร็งตาย เนื่องจากขาดเลือดและออกซิเจน หลังจากนั้น แพทย์จะปล่อย"แอร์ฮีเลียม"ตรงสู่บริเวณดังกล่าวทันที เพื่อเร่งให้อุณหภูมิของก้อนมะเร็งสูงขึ้น ส่งผลให้เซลล์มะเร็งตายในที่สุด

3) การใช้เคมีบำบัดสกัดเส้นทางหล่อเลี้ยงเนื้องอก เป็นวิธีใช้เข็มขนาดเล็ก เจาะผ่านเส้นเลือดแดงที่หล่อเลี้ยงเซลล์มะเร็ง ก่อนที่จะปล่อยเคมีผ่านท่อดังกล่าว ช่วยให้เส้นเลือดแดงหยุดการจ่ายเลือดและอาหารเพื่อเลี้ยงเซลล์มะเร็ง ทำให้เนื้อร้ายเหล่านั้นตายในที่สุด

4) การใช้พันธุกรรมบำบัด เป็นการรักษายีนที่มีความผิดปกติด้วยการให้ยาเพื่อควบคุมการแบ่งตัว และยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง โดยยาแต่ละชนิดจะออกฤทธิ์ตรงสู่เป้าหมายที่ต้องการ โดยไม่ทำอันตรายต่อเซลล์ปกติ

นวัตกรรมการรักษามะเร็งเหล่านี้ ถือเป็นวิวัฒนาการทางการแพทย์ขั้นสูง ที่ได้รับการยอมรับจากโรงพยาบาลทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการรักษามะเร็งด้วยวิธีนี้ยังมีน้อย ดังนั้น โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว จึงร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขในประเทศต่างๆ โดยเฉพาะในอาเซียน เพื่อให้คำปรึกษา และเปิดโอกาสให้แพทย์ เข้าไปศึกษาขั้นตอนการรักษามะเร็งของโรงพยาบาลในประเทศจีน เพื่อสนับสนุนให้วิธีการรักษามะเร็งแบบใหม่ เป็นการรักษามะเร็งแบบมาตรฐาน แทนการรักษามะเร็งแบบเคมีบำบัด หรือการฉายแสงในอนาคต
Read more ...

กิน 'ไส้กรอก' เสี่ยงตายก่อนวัยอันควร

9.3.56
โดยวอยซ์ทีวี เมื่อ 8 มี.ค.2556

นักวิจัยยุโรปเปิดเผยผลสำรวจที่พบว่าการรับประทานเนื้อสัตว์แปรรูปประเภทแฮมและไส้กรอก ส่งผลต่ออัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร รวมถึงทำให้เกิดโรคร้ายต่างๆอีกมากมาย

ใครที่ชอบรับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ซึ่งประกอบด้วยแฮม ไส้กรอก  หรือเบคอนทอด อาจจะถึงเวลาต้องเปลี่ยนใจมาเป็นข้าวต้มหรืออาหารเช้าแบบไทยๆแล้ว เนื่องจากล่าสุด นักวิจัยได้เปิดเผยผลการวิจัยที่พบว่าการรับประทานเนื้อสัตว์แปรรูป เช่นไส้กรอก แฮม หรือเบคอน รวมถึงเนื้อเบอเกอร์มากๆเป็นเวลานานติดต่อกัน ส่งผลให้ผู้บริโภคเสียชีวิตก่อนถึงวัยอันควรได้

จากการสำรวจเก็บข้อมูลประชากรในยุโรปจำนวนกว่า 500,000 คนต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานถึง 13 ปี นักวิจัยพบว่ามีผู้เสียชีวิตไปในระยะเวลาดังกล่าวเป็นอัตราถึง 1 ใน 17 หรือเกือบ 30,000 ราย โดยมีจำนวน 10,000 รายเสียชีวิตจากมะเร็ง และอีก 5,000 รายเสียชีวิตจากโรคหัวใจ

โดยผู้ที่รับประทานเนื้อสัตว์แปรรูปประมาณ 160 กรัม หรือไส้กรอก 2 ชิ้นและเบคอน 1 แผ่นต่อวัน มีแนวโน้มเสี่ยงเสียชีวิตก่อนวัยอันควรมากกว่าคนที่รับประทานไส้กรอกเพียง 20 กรัมต่อวันมากถึงร้อยละ 44

สำหรับสาเหตุที่เนื้อสัตว์แปรรูปเหล่านี้ส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้บริโภค เกิดจากการที่กระบวนการผลิตอาหารประเภทไส้กรอกและแฮม ต้องใช้เกลือและสารเคมีต่างๆจำนวนมาก เพื่อรักษาเนื้อสัตว์ไม่ให้เน่าเสียและได้รสชาติที่ดี นอกจากนี้ไส้กรอกและเบคอนส่วนใหญ่ยังมีไขมันสัตว์เป็นส่วนผสมในปริมาณมาก ทำให้การรับประทานอาหารประเภทนี้เป็นประจำ เสี่ยงต่อทั้งโรคมะเร็งและโรคอ้วน รวมถึงโรคอื่นๆที่เกี่ยวข้องอย่างโรคหลอดเลือดหัวใจและความดันโลหิตสูง

ถึงแม้ว่าการกินไส้กรอกและแฮมจะส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง ก็ใช่ว่าคนส่วนใหญ่จำเป็นจะต้องงดเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์อย่างเด็ดขาด แพทย์ส่วนใหญ่แนะนำว่าโปรตีนจากเนื้อสัตว์ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อร่างกายมนุษย์ นอกจากนี้ เนื้อแดงยังมีแร่ธาตุและกรดอะมิโนหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ที่ถั่วหรือโปรตีนชนิดอื่นๆไม่สามารถทดแทนได้

โดยในปัจจุบัน แพทย์ในอังกฤษแนะนำให้ประชาชนในประเทศบริโภคเนื้อสัตว์แปรรูปได้ประมาณวันละไม่เกิน 70 กรัม หรือคิดเป็นเบคอน 2 แผ่น ก็จะถือว่าไม่เสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายต่างๆมากนัก ในขณะที่ร่างกายก็จะได้รับสารอาหารครบถ้วนด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม หากเลี่ยงได้ ก็ควรเลือกรับประทานเนื้อสัตว์ที่ไม่ผ่านกระบวนการทางเคมีหรือแปรรูปหลายขั้นตอนมากเกินไป ทั้งไส้กรอก แฮม หรือแม้แต่ลูกชิ้น และหันมารับประทานเนื้อสัตว์ที่แปรรูปขั้นตอนเดียว เช่นสเต็ก หรือเนื้อสัตว์ปรุงสุกทั่วๆไป ก็จะได้ทั้งโปรตีนและกรดอะมีโนจากเนื้อสัตว์ โดยไม่ต้องรับโซเดียมและสารเคมีอันตรายโดยไม่จำเป็น

Read more ...