"นิวยอร์ก"ไฟเขียว ผ่านกม.แบน"เครื่องดื่มผสมน้ำตาลแก้วใหญ่"

14.9.55
 
โดยมติชน เมื่อ 14 ก.ย.2555

นครนิวยอร์กอนุมัติกฎหมายสั่งแบนการจำหน่ายเครื่องดื่มผสมน้ำตาล (sugary drinks)ขนาดแก้วใหญ่กว่าปกติแล้ว ทั้งในร้านอาหารและสถานที่สาธารณะอื่นๆ ซึ่งถือเป็นที่แรกในสหรัฐฯ

มาตรการดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสาธารณสุข 8 คน ที่ได้รับการแต่งตั้งนายกเทศมนตรี โดยมีเพียงรายเดียวที่งดออกเสียง นายไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ได้เรียกร้องให้มีการแบนดังกล่าว เพื่อหวังลดอัตราผู้ป่วยด้วยโรคอ้วน ซึ่งนำไปสู่โรคภัยประเภทอื่น

ทั้งนี้ ตามข้อเสนอของบลูมเบิร์กให้ความหมายเครื่องดื่มผสมน้ำตาล ว่าเป็นเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลหรือสารให้ความหวานที่ให้พลังงาน เช่นฟรุกโตสมากกว่า 25 แคลอรี่ต่อ 8 ออนซ์ และมีส่วนผสมของนมหรือนมเทียมน้อยกว่า 51%

ด้านกลุ่มเรียกร้อง New Yorkers for Beverage Choices ได้ออกมาตำหนินโยบายดังกล่าว โดยระบุว่า ชาวนิวยอร์กฉลาดพอที่จะเลือกได้เองว่าควรหรือไม่ควรบริโภคสิ่งใด ขณะที่โพลล์ของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ ระบุว่า 60% ของชาวนิวยอร์ก ต่อต้านมาตรการดังกล่าว

ทั้งนี้ คำสั่งห้ามจำหน่ายน้ำอัดลมแก้วใหญ่ ซึ่งผ่านการอนุมัติวานนี้ (13 ก.ย.) จะมีผลกับน้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลที่มีขนาด 16 ออนซ์ หรือ 473 มิลลิลิตรขึ้นไป ในเกือบทุกสถานที่ที่มีการจำหน่าย ยกเว้นร้านขายของชำและร้านสะดวกซื้อ แต่ไม่นับรวมถึง เครื่องดื่มประเภทไดเอ็ต เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำผลไม้มากกว่า 70% และร้านค้าใดที่ฝ่าฝืน จะต้องโดนปรับ 200 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6,200 บาท)

นครนิวยอร์กถือเป็นเมืองแรกในสหรัฐฯที่ออกมาตรการเช่นนี้มาบังคับใช้ เพื่อหวังลดอัตราผู้ป่วยโรคอ้วน นอกจากนั้นยังถือเป็นเมืองแรกที่ออกกฎหมายให้ร้านอาหารต้องระบุจำนวนแคลอรีโดยประมาณลงในเมนูอาหาร

ตามข้อมูลขององค์กรเพื่อความร่วมเมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ระบุว่า ราว 1 ใน 3 ของชาวอเมริกัน ป่วยเป็นโรคอ้วน ขณะที่ร่างกฎหมายการสาธารณสุขของสหรัฐฯ ได้ระบุโรคที่เกี่ยวข้องกับอาการเจ็บป่วยไว้ถึง 10% อาทิ เบาหวานประเภท 2 โรคหัวใจ และความดันสูง และคาดการณ์ว่า มากกว่า 2 ใน 3 ของประชากรในประเทศพัฒนาแล้วบางประเทศ จะมีน้ำหนักตัวเกินหรือป่วยเป็นโรคอ้วนภายในปี 2020

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น